วันนี้ขอนำเสนอเครื่องดื่มประเภทหนึ่งซึ่งเรียกได้ว่าเอ่ยมาต้องรู้จักกันนั่นคือ “ชา” ชาเป็นเครื่องดื่มที่มีผู้คนนิยมดื่มมากพอๆกับกาแฟ ซึ่งคนนิยมดื่มชากันในขณะนี้เกือบทั่วโลกจริงๆแล้วชามีต้นกำเนิดเกิดมาก่อนกาแฟอย่างน้อยเกือบ 2000 ปี
ชามีต้นกำเนิดจริงๆแล้วมาจากภาคใต้ของประเทศจีน หรือเรียกได้ว่าตอนเหนือของประเทศอินเดียแต่ประเทศจีนเป็นแม่แบบในการดื่มชาที่ทั่วโลกรู้จักกันมาอย่างช้านาน
การปลูกต้นชามีการปลูกกันมากในประเทศจีน อินเดียเมื่อก่อนนะแต่เดี๋ยวนี้มันกระจายไปยังประเทศญี่ปุ่นไทย มาเลย์เซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย เมื่อต้นชาเจริญเติบโตเต็มที่แล้วจะมีความสูงถึง 6 เมตรส่วนอายุของมันน่ะไม่ต้องพูดถึงมันมีอายุยืนยาวเกือบ 100 ปี
การปลุกชาแต่ละพื้นที่ ก็จะให้รสชาติแตกต่างกันคุณภาพของชาจะขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศส่วนมากนิยมปลูกในพื้นที่สูง คือภูเขาหรือไล่เขาจะให้รสชาติและกลิ่นที่กลมกล่อมและละมุนละมากกว่าชาที่ปลูกในพื้นที่ต่ำและพื้นที่ๆไม่ใช่ภูเขาแล้วการเก็บเกี่ยวชาจะเริ่มต้นเมื่อชามีอายุได้ประมาณ 4-5 ปี
โดยการเก็บเกี่ยวจะเก็บเฉพาะยอดอ่อนและใบอ่อนส่วนอื่นเราจะไม่เก็บหลังจากนั้นก็นำยอดชาและใบอ่อนของชาที่เก็บได้ใส่ตะแกรงพึ่งลมให้แห้งใช้เวลาผึ่งลมประมาณ 10 ถึง 12 ชั่วโมงและนำเข้าสู่กระบวนการอื่นๆอื่นต่อไปจนได้ใบชาที่นำมาชงดื่ม ขั้นตอนอาจจะไม่ยุ่งยากมากมายแต่ต้องพิถีพิถันอย่างมากเพื่อให้ได้ใบชาที่มีคุณภาพและรสชาติน้ำชาที่ดี ชาในปัจจุบันที่ดื่มกันมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิดชนิด คือชาจีน ชาฝรั่ง และชาเขียว
สรรพคุณของชาที่มีต่อร่างกายคือช่วยให้ผู้ดื่มสดชื่นกระปรี้-กระเปร่า และช่วยป้องกันโรคบางชนิดเช่นโรคหัวใจโรคท้องเสียช่วยระงับยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ยับยั้งการแข็งตัวของหลอดเลือดช่วยละลายไขมันช่วยในเรื่องของคอเลทเตอรอลในเลือดให้ลดลง
ชาเป็นเครื่องดื่มที่มีผู้คนนิยม แต่โทษของมันโอ้โหถ้าคุณรู้ ชาที่คุณดื่มทุกวันว่ามีผลกระทบในทางลบอะไรกับร่างกายยังไงบ้างข้อเสียก็คือหนึ่งถ้าดื่มมันอย่างถูกวิธีก็จะให้คุณ
แต่ถ้าดื่มไม่ถูกวิธีก็จะให้โทษและถ้าคุณดื่มถูกวิธีก็จะให้คุณชาจีนนั้นมีกรดแทนนิคมากกว่าชาเขียวซึ่งกรดชนิดนี้ถ้าร่างกายรับมากจนเกินไปจะมีผลต่อระบบลำไส้และกระเพาะจะทำให้การดูดซึมอาหารอื่นๆได้ไม่เต็มที่จึงมีผลทำให้ร่างกายเจริญเติบโตโดยเฉพาะในเด็กที่เท่าเดิมถ้าหากคุณดื่มชามากเกินไปทำให้ร่างกายคุณขาดธาตุเหล็ก เนื่องจากกรดแทนนิคจะเข้าไปรวมตัวกับธาตุเหล็กแล้ว
จะกลายเป็นก้อนแข็งเม็ดเล็กๆขึ้นมาและย่อยสลายไม่ค่อยได้ ร่างกายที่ขาดธาตุเหล็กทำให้ร่างกายไม่เจริญเติบโตเฉพาะ เด็กการดื่มชาที่ผิดเวลายังส่งผลให้ร่างกายด้วย ถ้าคุณดื่มชาระหว่างรับประทานอาหารจะส่งผลให้ร่างกายคุณดูดซับอาหารได้น้อยลงแล้วถ้าคุณดื่มชาที่มีความเข้มข้นสูงมากอยู่เกินไปคุณอาจจะท้องผูกและเป็นริดสีดวงทวารได้
อีกทั้งการดื่มชาในขณะท้องว่างยังส่งผลให้ระบบย่อยอาหารผิดปกติในที่สุดโรคกระเพาะจะถามหาคุณ ทางที่ดีคุณควรดื่มชาหลังรับประทานอาหารแล้วอย่างน้อย 2 ชั่วโมงซึ่งจะปลอดภัยต่อสุขภาพและร่างกายของคุณให้มากที่สุด
เป็นอย่างไรครับแค่การดื่มชายังต้องศึกษาเวลาดื่ม เพราะมีผลต่อร่างกายวันนี้ก็ถือว่าเรามาคุยกันเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการดื่มชาเพราะฉะนั้นแล้วการดื่มชาให้ถูกต้องควรดื่มให้ถูกที่ถูกเวลา
สนับสนุนเนื้อหาโดย ทางเข้า ufabet มือ ถือ