ในปัจจุบันเราจะพบเห็นการนำเสื้อผ้าเก่าที่ไม่ได้ใช้แล้วออกมาขายเพื่อสร้างรายได้กันเป็นจำนวนมากซึ่งจะมีการนำมาขายทั้งตามตลาดนัด ตลาดที่สวนจตุจักร
ตลาดที่ขายสินค้ามือสอง ร้านขายสินค้าออนไลน์อย่างใน shopee และ lazada ต่างก็นำเสื้อผ้าที่ใส่ไม่ได้แล้วออกมาขายเพื่อหารายได้ให้กับตัวเองในยุคเศรษฐกิจแบบนี้กัน ซึ่งบางครั้งเวลาที่เราขับรถไปตามท้องถนน เรามักจะเห็นร้านขายเสื้อผ้ามือสองเกิดขึ้นมากมาย และผู้คนต่างก็พากันซื้อเสื้อผ้ามือสองมาใส่เพราะราคาถูกกว่าเสื้อผ้ามือหนึ่งมากนัก
และบางคนก็เห็นว่าเสื้อผ้ามือสองที่วางขายยังอยู่ในสภาพเหมือนใหม่และแบบสวยถูกใจก็มักจะซื้อมาใส่กัน ยิ่งในช่วงนี้ตลาดเสื้อผ้ามือสองจะเป็นที่นิยมกันมาก เพราะบางร้านแรงจูงใจมาจากการนำสินค้าเข้ามาจากต่างประเทศ เช่น เสื้อญี่ปุ่น เกาหลีมือสองจะขายดีมากๆ และในช่วงฤดูหนาวเสื้อกันหนาวมือสองก็จะขายดี ซึ่งการที่ซื้อเสื้อผ้ามือสองมาใส่นั้นอาจจะทำให้เราประหยัดในเรื่องของการใช้จ่ายก็จริงแต่ก็เสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อที่จะติดมาจากเสื้อผ้าได้ด้วยเหมือนกัน
เพราะเราจะไม่รู้ว่าคนที่เป็นเจ้าของเสื้อผ้าคนก่อนเป็นโรคผิวหนังอะไรหรือไม่ เช่น โรคหิด โรคกลาก โรคเกลื้อน ซึ่งหากเสื้อผ้ามือสองผ่านการสวมใส่มาจากคนที่เป็นโรคเหล่านี้ตัวเราเองที่ซื้อมาใส่ต่อก็จะทำให้ติดโรคเหล่านี้ตามไปด้วยและหากเป็นการติดต่อโรคหิด อาจจะทำให้โรคนี้ลามติดต่อกับคนในครอบครัวคนอื่นๆได้ด้วยเช่นกัน เพราะโรคทั้งสามอย่างนี้จะเกิดจากการสัมผัสกันได้เป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่ง
หรือหากเสื้อผ้าที่มีการเปิดขายตามท้องถนนมักจะมีฝุ่นละอองเกาะทำให้เวลาที่เราซื้อมาสวมใส่อาจจะทำให้เกิดการแพ้ฝุ่นละอองเหล่านี้ก็ได้ ดังนั้นคุณหมอที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคผิวหนังจึงได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับคนที่นิยมซื้อเสื้อผ้ามือสองมาใส่ว่า หลังจากที่เราซื้อเสื้อผ้ากลับมาบ้านทุกครั้งให้แยกเสื้อผ้ามือสองที่ซื้อมาใหม่มาซักแยกตัวผ้าตัวอื่น โดยการซักผ้านั้นหากเป็นไปได้ แนะนำให้นำเสื้อผ้ามือสองไปต้มในน้ำร้อนที่มีความร้อนอย่างน้อยประมาณ 60 องศาก่อน
โดยให้แช่ผ้าไว้กับน้ำร้อนสักประมาณ 30 นาทีหลังจากนั้นมาออกมาแช่น้ำยาฆ่าเชื้อโรคอีกสัก 30 นาทีแล้วจึงค่อยซักผ้าตามปกติ และให้ตากในที่แดดจัดๆเพื่อให้แดดฆ่าเชื้อโรคอีกรอบหนึ่งด้วย และหากใส่เสื้อผ้าแล้วพบว่ามีอาการคันหรือมีตุ่มขึ้นให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบ